สำนักสหปฏิบัติฯ

        มนุษย์มีกลไกที่เอาตัวรอด ตั้งแต่แรกเรียนรู้ในวัยเด็ก เราอาจรู้สึกขาดหรือรู้สึกผิดปกติบางอย่าง รู้สึกไม่เพียงพอ อาจด้วยมีความกลัวแฝงเร้นทำให้ไม่อุ่นใจ ต้องการความอบอุ่นจากใครๆ หรือจากสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มาเติมเต็มความรู้สึกขาด หรือความรู้สึกกลัวนั้น ให้รู้สึกปลอดภัย และอุ่นใจ เช่น รู้สึกว่าไม่เป็นที่รักพอ ไม่เป็นที่สนใจพอ เราก็จะหาความรู้สึกใหม่มาชดเชย เช่นทำตัวให้ดี เพราะเรารู้ว่าหากทำแบบนี้คนจะชมเรา ก็จะใช้การได้ และเป็นจริงผลที่ดีก็ตามมา บางคนทำตัวให้ยิ่งใหญ่ให้เพื่อนสนใจ บางคนแก้ปัญหาโดยการตามใจเพื่อนเพื่อนว่าไงว่ากัน บางคนรู้สึกว่าตัวเองไม่ฉลาดก็เลยต้องพยายามขยัน เพื่ออย่างน้อยจะได้ไม่ต่ำกว่ามาตรฐานเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมของเด็กเหล่านั้นว่ากำลังอยู่กับใคร นิสัยอย่างไร มีพฤติกรรมอย่างไร การทำตัวให้เป็นที่ยอมรับจากเพื่อน จากพ่อแม่ ด้วยทุกวิถีทางเพื่อมาชดเชย เพื่อไม่ให้รู้สึกว่ารู้สึกขาดอะไรให้ตัวเรารู้สึกเติมเต็มและอบบอุ่นอยู่เสมอ มาจนวันนี้ เราจึงมีชีวิตอยู่ในสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาชดเชยตลอดเวลา เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ความรู้สึกไม่เพียงพอก็ยังคงอยู่ ฉันยังไม่มีตำแหน่งหน้าที่การงานพอ รายได้ของฉันยังไม่พอ สักวันหนึ่งฉันจะหาคู่ครองที่ดีพอ ทีวีที่ฉันมียังไม่ทันสมัยพอ โทรศัพท์ของฉันยังทำงานได้ไม่เพียงพอ มันขาดโน่น ขาดนี่ หรือชอบให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้แล้วคนจะชมเรา ซื้อแล้วซื้ออีก รุ่นแล้วรุ่นเล่ามันก็ยังไม่รู้สึกพอ ความรู้สึกนี้ผลักดันเรามาจนถึงวันนี้เราก็จะไม่สามารถชดเชยความรู้สึก ต้องการชดเชยให้เติมเต็มได้เลย เพราะความรู้สึกขาดมันไม่มีอยู่จริง คุณสร้างขึ้นมาเอง ซื้อเท่าไร เติมเท่าไรก็ไม่เต็ม ไม่ไม่รักฉัน ฉันขาด เพราะทั้งหมดเกิดจากการตีความ ความเป็นตัวเราก่อกำเนิดมาตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่จนถึงปัจจุบัน
วัยเด็กคุณขาดอะไร คุณก็เลยเป็นเด็กอย่างนั้น เพื่อมาชดเชย
วัยรุ่นคุณขาดอะไร คุณก็เลยมีพฤติกรรมอย่างนั้น เพื่อมาชดเชย เพราะสิ่งที่ทำชดเชยในวัยเด็กไม่สามารถใช้การได้ในวันรุ่น
วัยทำงานคุณขาดอะไร คุณก็เลยมีนิสัยอย่างนั้น เพื่อมาชดเชย เพราะสิ่งที่ทำชดเชยในวัยเด็ก วัยรุ่นไม่สามารถใช้การได้ในวันผู้ใหญ่
ทั้งหมดทั้งพฤติกรรมและนิสัยทั้งหมดของเรา ล้วนก่อกำเนิดจากการตีความในอดีต ที่มาของความเป็นคุณทั้งหมดเกิดจาก การตีความตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ล้วนเกิดจากการตีความ คุณเป็นบางอย่างที่เราสรุปว่าเราเป็น เช่นฉันเป็นคนดี ฉันไม่พึ่งพาใคร ฉันเก่งคำนวณ ฉันเก่งกีฬา สูตรแกร่งทำให้คุณประสบความสำเร็จในชีวิตได้ก็จริง แต่มันเป็นเพียงตัวชดเชยสำหรับบางอย่าง มันเป็นตัวชดเชยสำหรับความล้มเหลว มันไม่สามารถที่จะเติมต็มได้ทุกอย่าง  เพราะความรู้สึกที่คุณมีในทุกวันนี้มันเริมมาจากความรู้สึกขาดตรงนั้น รู้สึกว่าตัวเองไม่เพียงพอจึงเป็นการตัดสินคุณมาชั่วชีวิตคุณ บางคนไม่พึ่งใคร ก็จะไม่งอนง้อใคร บางคนเป็นคนตลกแต่จะไปตลกทุกที่ได้อย่างไร คนบางคนขยันแต่ จะไปช่วยคุณทุกสถานการณ์ได้อย่างไร เมื่อคุณรู้สึกว่าเขามี แล้วเราไม่มีแล้วเราจะเพียงพอได้อย่างไร อดีตไม่มีตัวตน อนาคตก็ไม่มีตัวตน มีแต่ปัจจุบันขณะนี้ วินาทีนี้ อะไรเกิดขึ้นได้กับเรายู่ที่เราจะตัดสินใจทำ ถ้ามั่นใจว่าเป็นสิ่งดีให้ทำเลย ความว่างจะเกิดขึ้น เพราะชีวิติมันไม่มีอะไรเลย เราเคยโกรธปรีดทันทีด้วยการตีความของคุณ แต่การตีความไม่มีจริง คุณอาจตีความแล้วเก็บมันเป็นสัญญาวางไว้ในอนาคต ทำให้อนาคตเต็มไปด้วยอุปทานเต็มไปหมดแล้ว ถ้าหากเรายังแบกไว้อยู่ความว่างจะเกิดได้อย่างไรเริ่มต้นชีวิตใหม่กับวินาทีปัจจุบันที่เป็นอิสระกับความรู้สึกที่ไม่เคยสำผัสมาก่อน เมื่อเราคิดได้ สำผัสได้ในมุมมองใหม่ เมื่อเราสามารถแยกแยะได้ มันก็จะได้แนวทางปฏิบัติใหม่ แน่นอนเราก็จะได้ผลลัพธ์ใหม่และความเป็นไปได้ใหม่ก็จะเกิดขึ้นได้เช่นกัน