สำนักสหปฏิบัติฯ

        พระมหากัสสปะ
               พระโอวาทประทานแก่พระมหากัสสปะนามเดิมชื่อว่า ปิปผลิมาณพ เป็นบุตรของกปิลพราห์ม ในหมู่บ้านมหาติตถะแห่งมคธรัฐ    ทรงประทานโอวาท ๓ ข้อใต้ต้นไทรใหญ่มีชื่อว่า พหุปุตตนิโครธ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเมืองราชคฤห์ และเมืองนาลันทา คือ
๑.   ให้ตั้งความละอาย ความยำเกรง
๒.   เราจะฟังธรรม และพิจรณาความ
๓.   เราจะไม่ละสติที่เข้าไปในกาย จะพิจรณาร่างกายเป็นอารมณ์
แล้วจึงขออุปสมบส เรียกการอุปสมบสแบบนี้ว่า โอวาทปฏิคคหณูปสัมปทา และบรรลุอรหันต์ได้   หลังจากฟังโอวาทได้ ๘ วัน ท่านปฏิบัติเคร่งครัด โดยถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตรโดยตลอด
 
เสด็จกรุงกบิลพัสดุ์
      ทรงบำเพ็ญประโยชน์ครบ ๓ ประการคือ
๑.       ทรงบำเพ็ญประโยชน์ต่อสัตว์โลก เทวโลก พรหมโลก และมารโลก ตลอด ๘ อสงไขแสนมหากัปป์  
           จัดเป็นโลกัตถจริยาต่อชาวโลก
๒.       ทรงบำเพ็ญประโยชน์ต่อพระประยูรญาติ จัดเป็นญาตัตถจริยา
๓.       ทรงบำเพ็ญประโยชน์ซึ่งเป็นพุทธกิจ ชี้แจงข้อธรรม สรรเสริญผู้ปฏิบัติ
           พระพุทธบิดาสดับข่าว และส่งอำมาตย์ไปทูลอาราธนาที่เวฬุวันอุทยาน ที่พระเจ้าพิมพิสารถวาย ณ.กรุงราชคฤห์พระเจ้าสุทโธทนะให้อำมาตย์มาเชิญแต่กลับไปบวชและบรรลุอรหัรต์ทั้งหมด ๑๐๐๑ องค์ เชิญอยู่ ๙ ครั้ง ๙ หน ในที่สุดทรงส่ง กาฬุทายีอำมาตย์ไปเชิญ
   กาฬุทายีอำมาตย์: สหชาติกับพระบรมศาสดา ทรงยกย่องว่าเป็นผู้เลิศในทางสร้างตระกูลให้เลื่อมใสยิ่งกว่าสาวกใดๆในศาสนาตถาคต สามารถอาราธนาพระบรมศาสดาสำเร็จ กาฬุทายีอำมาตย์ส่งข่าวการเสด็จโปรดพระพุทธบิดา ทรงเสด็จร่วมพระอริยสงค์ ๒ หมื่น เป็นภิกษุชาวอังคราษฏร์ ๑ หมื่นและภิกษุชาวกบิลพัสดุ์ ๑ หมื่น