สำนักสหปฏิบัติฯ

พระพรหม เทพเจ้าแห่งความรัก
   พระพรหมในศาสนาพราหมณ์นั้นเราคงเคยพบเห็นรูปภาพ รูปปั้นกันอยู่ทั่วไปตามสถานที่ต่างๆ เราจะเห็นว่ามีสี่พระพักตร์ แปดกร พระพรหมจะมีจริงหรือไม่นั้น ในพระพุทธศาสนาเราสามารถพบเรื่องของพระพรหมได้ในพระไตรปิฎก แม้แต่ในพุทธประวัติก็มีกล่าวถึงอย่างชัดเจน ก็คงจะยืนยันได้ว่ามีจริง แต่ความสำคัญของพระพรหมนั้นคงเป็นปริศนา ว่าทำไมพระพรหมจึงเป็นที่ยอมรับนับถือกันมาก และเราสามารถพบรูปจำลองของพระองค์ได้มากที่สุดองค์หนึ่ง แต่ส่วนใหญ่เป็นที่ทราบกันแต่เพียงว่าพระพรหมเป็นตัวแทนของความรัก เป็นผู้กำหนดพรหมลิขิตชีวิตเรา หลายคนจึงบนบานขอสิ่งต่างๆจากพระพรหม หวังเพียงให้พระพรหมช่วย แท้จริงแล้วหากมองในแง่มุมของพระพุทธศาสนาพระพรหม ๔ หน้า คงเปรียบได้กับพรหมวิหารธรรม ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา คนเรามักยึดติดกราบไหว้เทวรูปจำลองพระพรหมมากกว่าศึกษาให้เข้าถึงพระพรหมว่าพระพรหมคือสิ่งใด  แท้จริงแล้วพระพรหมเป็นรังสีที่มองไม่เห็น ที่เราเรียกว่าพรหมรังสี รูปจำลองของพระพรหมจะมีหรือไม่มีแต่รังสีแห่งพรหมนั้นมีแน่นอน การพัฒนาตัวเราเองจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพื่อเป็นการนำพาตัวเองไปสู่ความสำเร็จในชีวิต นำตัวเองฟันฝ่าเพื่อผ่านพ้นวิบากกรรม การบนบานศาลกล่าวไม่ใช่แนวทางของพระพุทธศาสนาอย่างแน่นอน การพัฒนาตัวเองต่างหากที่เป็นแนวทางของพระพุทธศาสนา เราจึงควรพัฒนาจิตของเราให้มีเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา อันหมายถึงมีพรหมวิหารธรรมสมบูรณ์ นั่นจึงเป็นการเข้าถึงพระพรหมแท้จริง รู้จักพัฒนาจิตของเราให้ละเอียดลึกลงไปสู่ระดับจิตวิญญาณ และลึกลงสู่ระดับวิญญาณ และระดับวิญญาณแท้ที่เป็นสากลให้ได้ตามลำดับ โดยพัฒนาจิตให้เข้าสู่องค์ฌานองค์ญาณ พัฒนาจิตและวิญญาณหรืออภิสังขารของเราให้เป็นพรหม ตั้งแต่ระดับรูปพรหม  สู่อรูปพรหม หรือระดับมหาพรหม หรือมหาเทพเสียเอง ไม่ควรหวังพึ่งแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คอยช่วยเราฝ่ายเดียว โดยไม่พยายามพัฒนาตนช่วยเหลือตนเอง  พัฒนาความรักของเราให้ก้าวสู่ความรักสูงสุดของพระพรหม นั่นคือความรักระดับอัปปมัญญาพรหมอันเป็นความรักกลางๆ ที่รักได้ถ้วนทั่วทุกคน ทุกสัพชีวิตเสมอภาค ช่วยเหลือผู้อื่นตลอดจนเจริญเมตตา หรือส่งจิตที่ดี หรือรังสีที่ดีไปให้กับทุกสัพชีวิตอย่างจริงใจ รู้จักพัฒนาตัวรู้ของเราเข้าสู่ตัวรู้แจ้งแทงตลอดในองค์ธรรม เจริญในไตรลักษณ์ คือพัฒนาจิตให้เข้าถึง อนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา เพื่อก้าวผ่านพรหม เข้าสู่ธรรมสมบูรณ์ ไม่ยึดติดในตัวตน ไม่ติดในรูป หรือเทวรูปมีตัวรู้แจ้งแทงตลอดในระดับวิญญาณ ชีวิตเราก็จะผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ และสามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ด้วยตัวเราเองจึงจะเรียกได้ว่าเป็นเป้าหมายของพระพุทธศาสนาที่แท้จริง